top of page
  • boonsociety

ต๋องไม่อยากเห็นสนุ้กฯ ไทย สูญพันธุ์ในเวทีโลก เมื่ออิ่มท้องแล้วก็ต้องแบ่งปันให้สังคมบ้าง


ช่วงโควิด จะเห็นแต่ภาพ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย โลดแล่นเดินสายบุญ ร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญู ช่วยเหลือผู้คนต่อเนื่อง และหลังจากผ้าคลุมโต๊ะสนุกเกอร์เริ่มเปิด มีการแข่งขันรอบสุดท้ายแรงค์กิ้งที่หัวหิน ในฐานะมือไวด์คาร์ด ต๋องต้องกลับมาลับคมคิวซ้อมมือ แวะไปที่ S1 Signature Snooker Club ซึ่งก็ยังทำได้ดี กดเบรก กดเซ็นจูรี่ เป็นว่าเล่น ตอนนี้เริ่มกลับไปเก็บตัวทีมชาติชุดเอเชี่ยน อินดอร์ เกมส์

.....

ได้มีโอกาสพูดคุยแบบนอกรอบ บอกเลยผู้ชายคนนี้ สมเป็นไอดอล ไม่ใช่แค่เพราะฝีมือที่สร้างสีสันสร้างชื่อเสียงให้เมืองไทย แต่เมื่อได้ฟังความคิดแบบไม่มีกดบันทึก ความคิดคม ๆ ที่พูดออกมาล้วนแล้วแต่สะท้อนมุมมองที่อยากเห็นวงการสอยคิวไทยพัฒนา แต่ยังติดขัดทั้งเรื่องกฏเกณฑ์ แต่ที่สำคัญคือผู้คนที่อยู่ในแวดวงผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนา

....

ต๋อง ได้รับตำแหน่ง “ประชาสัมพันธ์” จากสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ คงเป็นเพราะชื่อเสียงที่ยังคงเป็นภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสังคมสอยคิวไทย ซึ่งต้องบอกว่ายินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนา ค่าตอบแทนไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับอยากให้ผู้คนทั้งหลายรับรู้ว่า “ผมไม่ได้อยากเป็นวอลเปเปอร์” ที่แปลได้ว่า แค่ไปยืนให้นักข่าวถ่ายรูป


.....

เพราะต๋องเชื่อมั่นตัวเองว่า ตัวเองนั้นมี “ประสบการณ์” และ “ความคิด” ที่สามารถนำไปใช้ให้มีคุณค่ามากกว่าภาพลักษณ์เนี้ยบ ๆ ที่เติมด้วย สูท เนคไท ที่สวมใส่ ยังมีอะไรที่น่าทำ และเชื่อว่าตัวเองมีความสามารถมากกว่านั้นอีกมากมาย เพียงแต่ว่า “โอกาส” ได้เปิดทางให้ได้ลงมือทำหรือไม่?

…..

“ผมอายุ 52 แล้ว คร่ำหวอดวงการสนุ้กฯ มานานมากแล้ว ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์แล้ว สิ่งที่ผมอยากเห็นคือ ผมไม่อยากให้ไทยเรามีโปรของเราสูญพันธุ์ เพราะไม่มีการหาทางในการเฟ้นหาพัฒนานักกีฬาไปสู่เวทีระดับโลก ถ้าผมตายไปแล้ว ผมอยากให้สนุ้กฯ ไทยอยู่ในเวทีระดับโลกต่อไป” ต๋องพูดถึงเรื่องนี้แบบจริงจัง

...

“เราต้องสร้างทัวร์นาเมนท์ให้มากกว่านี้ สำคัญที่สุดคือเราต้องสร้างสวัสดิการใหนักกีฬา ทุกวันนี้ช่องทางสายโปรมีแค่คิวสคูลเท่านั้น ไม่มีโควตาจากสมัครเล่น IBSF แล้ว สมาคมเองก็เหมือนผู้ปกครองประเทศ ต้องคิดเรื่องนี้และจริงจังได้แล้ว ต้องหาทุนให้กับเด็กเก่ง ๆ ส่งไปคิวสคูล วันหนึ่งเขาเป็นโปรแล้ว ประสบความสำเร็จ ให้เขามาใช้ทุนคืนให้ คือต้องหาหนทางอะไรแบบนี้ หน้าที่นี้สมาคมต้องทำ ผมไม่ได้อยากเป็นแค่วอลเปเปอร์ ผมไม่ใช่ร้านประดับยนต์นะ”

.....

“ผมไม่ได้หวังอยากจะเป็นบอร์ด ให้เป็นผู่ช่วยดีกว่า ไม่อยากบ้าตำแหน่ง อยู่เบื้องหลัง เป็นคนง่าย ๆ ตำแหน่งไม่ได้ทำให้ผมสั่นสะเทือน ผมมาด้วยใจล้วน ๆ” ส่วนเรื่อง พรบ.การพนันกับสนุกเกอร์ ต๋องยืนยันว่าถ้ายังมีลมหายใจ ก็ยังเดินหน้าสู้ต่อเรื่องนี้

.....



ถ้าคนคิดจะตอบแทนสังคมที่ตัวเองอยู่ อย่างน้อยตัวเองต้อง “อิ่มท้อง” จึงเหลือที่จะแบ่งปัน

“ถ้าผมกลับไปอังกฤษก็คงไปเล่นซีเนียร์ ส่วนสนุ้กฯ ก็ยังแข่งยังเล่นอยู่ ในส่วนของวันนี้ ผมได้สปอนเซอร์ Dr.Air มา ตอนนี้ก็ต่อยอด หุ้นกับเขาด้วย ทำให้จริงจัง เพราะสินค้ามันดีจริง ๆ เหมาะกับสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน ถึงแม้จะไม่มีโควิด บ้านเราอากาศก็มีปัญหาเรื่องฝุ่นเยอะ”

.....

“ส่วนธุรกิจต่อไป ผมก็จะทำห้างสรรพสินค้าออนไลน์ CD Outlet มีสินค้าโอท้อปราคาย่อมเยา ตอนนี้อยู่ในระหว่างวางแผนทางธุรกิจครับ”

.....

“ส่วนที่เกี่ยวกับสนุ้กฯ ผมก็มีโครงการเกี่ยวกับคอร์สสอนสนุ้กฯ ในรูปแบบใหม่ ทั้งออนไลน์ และอะคาเดมี่ เป็นรูปแบบใหม่”

.....




“ในส่วนของงานการกุศล พอไปทำแล้ว เราได้เห็นสภาพผู้คนที่เขาเดือดร้อนจริง ๆ ผมก็เลยยิ่งอยากไปช่วย กลายเป็นทำต่อเนื่อง และจะทำไปตลอด เราต้องแบ่งปัน ตอบแทนให้สังคมบ้าง ถ้ามีใครลองไปทำดูแล้วจะติดใจเลย เพราะทำแล้วมันมีความสุขจริง ๆ นะครับ”

.....

ท้ายสุด ก็ได้คุยกันว่า เรื่องที่ต๋องพูดคุยมันตรงไปตรงมา น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนในวงกว้าง ก็เลยถามแกไปว่า “พี่กล้านั่งคุยถ่ายทอดสดกันมั้ยล่ะ” คำตอบคือ “ทำไมผมจะไม่กล้า ว่าแต่จะกล้าสัมภาษณ์ผมมั้ยละ”...555

.....

เรื่อง : บูลย์ โซไซตี้

.....

.....สนับสนุนข่าวโดย

ดู 385 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page