‘เปา โพธิ์สามต้น’ เฉียดตายเพราะโควิด นอนคว่ำให้ออกซิเจน 6 วัน สุดทรมาน! เมื่อเจ้าโควิดเข้าโจมตีปอดของ “เปา โพธิ์สามต้น” นักกีฬาดิวิชั่น 1 และอาจารย์สอนสนุกเกอร์ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทุกคนเฝ้าห่วงหาด้วยความเป็นห่วงใย ด้วยโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน หัวใจ ที่ถือเป็นกลุ่มที่เสี่ยงที่สุด การต่อสู้หนนี้ นักกีฬามากความสามารถระดับอาจารย์ไม่สามารถหยิบไม้คิวขึ้นมาต่อกรได้ เพราะนี่ไม่ใช่เวทีสอยคิวบนผืนสักหลาด ไม่มีลูกสนุ้กฯ ไม่มีบทให้รุก แทงกันหรือวางสนุ้กฯ ก็ไม่ได้ ต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับกับเจ้าโควิดนานเกือบเดือน...กว่าจะรอดมาได้!
.....
เริ่มติดยังไม่มีอาการ ผ่านไป 4 วัน ลุกไปฉี่ก็ไม่ไหวแล้ว
“ช่วงแรกที่ตรวจเจอว่าติดโควิดแล้วก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการรักษา อาการของผมคือปวดตามผิวหนัง เป็นไข้ ช่วงแรกเข้ารักษาที่โรงพยาบาลบางบัวทอง 2 รักษาตามอาการ เป็นไข้ก็กินยาพาราเซตามอล ยังไม่มีอาการเหนื่อยหอบอะไร วัดระดับออกซิเจนในเลือดได้ 96 แต่วันรุ่งขึ้นเริ่มเหนื่อยหอบต้องให้ออกซิเจนแบบครอบ พอถัดอีกวัน อาบน้ำเริ่มเหนื่อยหอบมาก หายใจไม่ทั่วท้อง เริ่มอาการไม่ดี ต้องรีบกลับมาพักที่เตียง คือปอดผมเริ่มโดนทำลาย ต้องเพิ่มออกซิเจน คือถอดเครื่องช่วยหายใจไม่ได้เลย พอวันที่ 4 ที่อยู่ในโรงพยาบาล ลุกไปฉี่ในห้องน้ำกลับมาที่เตียงก็แทบขาดใจ เหนื่อยหอบมาก ต้องขอกระบอกมาฉี่ที่เตียง ตอนนั้นรู้แล้วว่าไม่ดีแล้ว คือถ้าไม่มีเครื่องให้ออกซิเจน ผมก็คงตายตั้งแต่วันนั้นแล้วครับ”
.....
อาการหนัก เข้าไอซียู ปอดโดนทำลายหนัก โอกาสรอด 50-50
“วันที่ 5 เครื่องช่วยหายใจธรรมดาเอาไม่อยู่แล้ว วัดค่าออกซิเจนเจนในเลือดตกลงมาก เหลือแค่ 85 หมอเลยให้ย้ายโรงพยาบาลช่วงเย็นทันที ผมได้ย้ายไปพระนั่งเกล้า คุณหมอใช้ออกซิเจนแรงขึ้น เริ่มอยู่ห้องไอซียู มีกระจกสามชั้น มีพยาบาลดูตลอด เริ่มต้องนอนคว่ำหน้า ขยับตัวได้บ้าง วันแรกที่เข้าไอซียู คิดในใจว่าไม่น่ารอดแล้ว มันหายใจไม่สะดวก แล้วมันสู้แรงลมออกซิเจนที่เข้าจมูก มันแรงมากเหมือนพายุเลย ทรมานมาก แสบไปหมด เอาออกแป๊บเดียวก็ต้องเอาเข้าใหม่ เอาออกก็ตายแน่นอน ตอนนั้นเลือดเต็มจมูกทั้งสองขาง เลือดคั่งเต็มรูจมูกเลย ผมนี่น้ำตาไหลออกมาเองเลย ร่างกายมันฟ้องออกมาเองเลย เอาจริง ๆ คุณหมอบอกว่าโอกาสรอด 50-50 ปอดโดนทำลายมาก แต่ตอนนั้นคุณหมอไม่ได้บอกผม กลัวเสียกำลังใจ”
…..
“มันทรมานมาก เจ็บหน้าอก นอนคว่ำเพื่อให้ปอดหายใจได้สะดวกขึ้น เอาหมอนทับตรงหน้าอกตลอด 24 ชั่วโมง ตอนแรกในห้องไอ.ซี.ยู.ก็มีอาการหนัก ตอนแรกสองคน ผมกับคุณป้าอีกคน พออีกหนึ่งวันเข้ามาอีกสองคน ผมก็ขยับย้ายไปอีกห้อง ตอนที่นอนคว่ำให้ออกซิเจน 6 วันนี่ ก็ฉีดยาฆ่าเชื้อตลอด ผมได้แต่น้ำเกลือ ไม่ได้กินอาหารอะไรเลย”
.....
ออกจากไอซียู เห็นสภาพตัวเองในกระจกแล้วร้องไห้
“อยู่ไอซียูสิบวันไม่เคยได้ถ่ายหนักเลย พอคุณหมอให้ยาเร่งถ่าย เข้าห้องน้ำ 7 รอบ ใน 4 ชั่วโมง หมดแรง ต้องให้น้ำเกลืออีกสองขวดเกือบน็อกเลย หลังจากนั้นก็เริ่มดีขึ้น ก็พักฟื้นต่อ อยู่โรงพยาบาล 20 วัน กักตัวอีก 5 วัน วันแรกที่ได้เข้าห้องน้ำ เห็นตัวเองในกระจก ร้องไห้เลย ซูบผอม ตาโหลเบ้าตาลึก จากคนที่มีเนื้อมีหนัง เห็นสภาพตัวเองมีแต่หนังหุ้มกระดูกแล้วน้ำตาไหลเลย น้ำหนักหายไป 13 กิโลกรัม แขนขาลีบกล้ามเนื้อหายไปหมดเลย ไม่มีแรงเลย
.....
ตาย..ผมไม่กลัว รับได้ แต่ตายแบบนี้ ผมต้องสู้
“ผมบอกเลยเรื่องความตายผมก็กลัวนะ แต่คิดว่าผมยอมรับได้ มันหนีไม่พ้น คือจริง ๆ ชีวิตผมก็เหมือนซ้อมตายมาบ่อยแล้ว แต่ถ้าผมตายเพราะโควิดแบบนี้ มันเหมือนไม่เหลืออะไรเลย ไม่ได้เจอญาติ ไม่ได้ทำพิธีศพเลย ใครก็มาหามาเยี่ยม แม้กระทั่งวันเผาก็มาไม่ได้ ผมบอกตัวเองว่าจะตายแบบนี้ไม่ได้นะ ผมต้องสู้ให้ได้”
.....
ทีมแพทย์และพยาบาล
“สำหรับวิกฤตครั้งนี้ ในทางการแพทย์ผมต้องขอขอบคุณทีมงานแพทย์และพยาบาลของทั้งสองโรงพยาบาลที่ดูแลผมจนหายกลับมาดำเนินชีวิตต่อไปได้ ผมรับรู้ตลอดเวลาเลยว่า ทุกคนเต็มที่กับงานที่เขาทำกันมาก แม้กระทั่งตอนที่ผมย้ายโรงพยาบาล จราจรติดขัดมาก เขาสื่อสารทุกช่องทาง และพยายามหาทางช่วยชีวิตคนไข้วิกฤตอย่างรวดเร็ว”
.....
เชื่อบารมี “หลางปู่ทวด” , “พระเจ้าตากสิน” ช่วยให้รอด
“และผมก็เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองผม ด้วยบารมีพระเจ้าตากสินที่ผมเคารพบูชามาตลอดชีวิตได้คุ้มครอง และช่วงที่เกิดวิกฤตครั้งสำคัญในชีวิตครั้งนี้ มีเหตุการณ์แปลก ๆ โดยก่อนหน้า 3 เดือน ผมเช่าพระองค์หนึ่ง หลวงปู่ทวด ปี 25 เช่ามาสี่พัน แล้วทีนี้ ลูกศิษย์(ชาตรี พัทยา) เอาพระหลวงพ่อบุญมาไปประกวดที่สระบุรี ได้รางวัลที่ 1 เอามาให้ผม ผมก็เอาขึ้นคอเอาไปเลี่ยมทองมาใส่บูชา แล้วเอาหลวงปู่ทวดให้ลูกชายไปห้อยแทน หลังจากนั้นเดือนกว่าหลวงปู่ทวดท่านมาเข้าฝัน ถามว่าทำไมไม่ห้อยพระของท่าน มีเหตุผลอะไร เช้ามาผมไปขอลูกคืน เปลี่ยนเอาหลวงพ่อบุญมาให้ลูกชายใส่แทน”
.....
“พอวันแรกที่เข้าไอซียู ผมกราบขอหลวงปู่ทวด ให้รอดปลอดภัย ไม่ถึง 10 นาที ผมไม่ได้ฝันนะ เหมือนมีหลวงปู่ทวดพุ่งเข้าไปในหัวผมจากกระหม่อมเลย แล้วท่านเอ่ยว่าพ่อจะช่วยเจ้านะ แล้วผมเห็นพ่อตากสินทรงม้าด้วย ผมก็อธิษฐานไม่ได้หลับ ไม่ได้ฝัน รู้สึกตัวตลอด หลังจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มเบาลงเรื่อย ๆ ผมขอท่านเฉย ๆ ไม่ได้บนอะไร แต่ผมตั้งใจแล้วว่า ผมจะต้องพาครอบครัวไปไหว้สักการะบูชา ขับรถไปเองที่ปัตตานี ผมไม่ได้บน ส่วนพ่อตากสินผมขอเป็นลูกหลานท่านนานมาแล้วครบ”
....
เดินหน้าสร้างบุญต่อเนื่อง ด้วยใจบริสุทธิ์
“สำหรับเรื่องการทำบุญต่อเนื่อง เอาจริง ๆ ผมก็ทำมานานแล้ว บางทีก็ไปทำเองเงียบ ๆ ไม่ได้บอกกล่าว ประกาศอะไร แต่พอวันหนึ่งเรามีลูกศิษย์เขาอยากร่วมด้วยก็เป็นเรื่องที่ดี ผมเคยฝันไว้นานแล้วอยากมีรถตู้ขับรถไปทำบุญ วัดไกล ๆ ตามป่าเขา ไปทำบุญให้กับผู้ยากไร้ หรือสถานพยาบาลที่ห่างไกลความเจริญ อยากทำบุญ ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ มีโอกาสก็อยากทำบุญ ทำบุญให้ครบสี่ภาคของเมืองไทย ต่อไปนี้ผมก็จะเดินหน้าทำบุญต่อไป ถ้ารอ...ก็คงไม่ได้ทำ มีเวลาก็รีบทำ มีลูกศิษย์เขาก็อยากร่วมทำแล้วแต่ศรัทธาครับ เราทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทำความดี ผลแห่งความดี ไม่ต้องรอชาติหน้าครับ”
.....
เรื่อง : บูลย์ โซไซตี้
Comentários