
สนุกเกอร์เซี่ยงไฮ้ มาสเตอร์ส หนึ่งในการแข่งขันรายการใหญ่ที่สุดนอกเกาะอังกฤษ จะเริ่มขึ้นการแข่งขันประจำปี 2024 ในวันจันทร์ที่ 15 ก.ค. วันนี้เรามาย้อนดูประวัติรอบชิงชนะเลิศตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรก เมื่อปี 2007 จนถึงปี 2012
2007 – โดมินิก เดล ชนะ ไรอัน เดย์ 10-6
ใครจะรู้ว่าแชมป์คนแรกของรายการนี้คือ โดมินิก เดล นักสนุกเกอร์ฉายา “สเปซแมน” จากเวลส์
เดล ซึ่งทำให้เซี่ยงไฮ้สดใสด้วยผมสีเงินอร่ามตา โชว์ฟอร์มเอาชนะ เค็น โดเฮอร์ตี้ และ มาร์ก เซลบี้ บนเส้นทางสู่แชมป์ ซึ่งเอาชนะไรอัน เดย์ รุ่นน้องชาวเวลส์ 10-6 เฟรม ทั้งที่เดย์เป็นฝ่ายนำถึง 6-2 แต่เดลเร่งรวดเดียว 8 เฟรมรวด คว้าแชมป์เก็บคะแนนรายการที่ 2 ซึ่งเป็นรายการล่าสุดที่เขาทำได้
2008 – ริคกี้ วอลเดน ชนะ รอนนี่ โอซัลลิแวน 10-8
วอลเดน พลิกล็อกเอาชนะ รอนนี่ โอซัลลิแวน 10-8 เฟรม คว้าแชมป์รายการแรกของตัวเองมาครอง ซึ่งทุกคนต้องยอมใจว่าเขาเหมาะสมที่จะคว้าแชมป์นี้ หากได้เห็นเส้นทางที่เต้มไปด้วยด่านนรกระดับแชมป์โลก ไม่ว่าจะเป็น สตีเฟ่น เฮนดรี้, นีล โรเบิร์ตสัน, สตีฟ เดวิส, มาร์ก เซลบี้ ก่อนมาปิดจบที่โอซัลลิแวน ซึ่งเขาทำเบรก 105 ในเฟรมที่ 18 คว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่
วอลเดน ซึ่งคว้าแชมป์เก็บคะแนนได้ 3 รายการกล่าวว่า “ผมไม่ใช่คนที่มั่นใจเต็มร้อยจนกว่าจะทำสิ่งนั้นสำเร็จเสียก่อน ในแต่ละรายการผมเพียงแต่พยายามอย่างเต็มที่ แล้วผมก็ทำได้ในเซี่ยงไฮ้ จากนั้นผมก็มาได้แชมป์เพิ่มอีก 2 รายการ ซึ่งมันก็มีผลมาจากชัยชนะครั้งแรกที่เซี่ยงไฮ้นั่นเอง”
2009 – รอนนี่ โอซัลลิแวน ชนะ เหลียง เหวินโป๋ 10-5
โอซัลลิแวน แก้ตัวจากความผิดหวังเมื่อปีที่แล้ว ด้วยชัยชนะเหนือมาร์โก ฟู กับ ติง จุนฮุย ตามด้วยการเอาชนะคู่แข่งบารมีอย่าง จอห์น ฮิกกิ้นส์ 6-1 เฟรมในรอบตัดเชือก
นัดชิงชนะเลิศ โอซัลลิแวน พบกับ เหลียง เหวินโป๋ ซึ่งเข้าชิงแชมป์เป็นรายการแรก ซึ่งแม้โอซัลลิแวนจะเล่นไม่ดีนักแต่ก็ยังนำถึง 6-2 ในเซสชั่นแรก ก่อนจะเดินหน้าคว้าแชมป์ด้วยสกอร์ 10-5
โอซัลลิแวน ซึ่งเก็บแชมป์ที่ 22 จาก 39 รายการ กล่าวว่า “ผมเล่นดีจริงๆ แค่ 2-3 เฟรมเท่านั้น นอกนั้นเป็นเกมที่ต้องเล่นอย่างอดทน”
2010 – อาลี คาร์เตอร์ ชนะ เจมี่ เบอร์เนตต์ 10-7
“กัปตัน” คาร์เตอร์ได้แชมป์เก็บคะแนนรายการที่สองในอาชีพ โดยเฉือนแมทธิว สตีเว่นส์ 5-4 ด้วยการเลาะชิ่งลูกดำ จากนั้นก็ชนะ มาร์ก เซลบี้ ในรอบรองชนะเลิศ ขณะที่เบอร์เดนได้เข้าชิงเป็นครั้งแรก และออกอาการเกร็งอย่างเห็นได้ชัด แต่คาร์เตอร์ก็ไม่เคยนำไกลกว่า 2 เฟรมเลย จนกระทั่งช่วงท้ายแมตช์ ที่ฉีกหนีจาก 8-7 ขึ้นไปคว้าแชมป์ด้วยสกอร์ 10-7
“ผมอยากคว้าแชมป์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” คาร์เตอร์กล่าว “หากคุณผ่านเข้าไปถึงรอบชิงก็มีโอกาสคว้าแชมป์ ซึ่งครั้งนี้ผมทำสำเร็จ มันไม่ใช่แมตช์ที่ยอดเยี่ยมอะไรแต่สุดท้ายผมก็ชนะ”
หลังจากนัน นักสนุ้กจากเอสเซ็กซ์ ก็คว้าแชมป์เพิ่มได้อีก 4 รายการ ทำให้ขณะนี้เขาเป็นแชมป์เก็บคะแนน 6 รายการ
2011 – มาร์ก เซลบี้ ชนะ มาร์ก วิลเลี่ยมส์ 10-9
การแข่งขันแมตช์ที่ ถูกจดจำมากที่สุดในเฟรมที่ 17 ซึ่งเหมือนกับจุดชี้เป็นชี้ตาย วิลเลี่ยมส์ขึ้นแท่นนำอยู่ 9-7 เขารู้สึกว่าเซลบี้แก้สนุ้กลูกแดงแต่ไปโดนชมพูก่อน ขณะที่ผู้ตัดสินเอเรี่ยน วิลเลี่ยมส์ ไม่ได้ขานฟาล์
หลังจากดูภาพซ้ำ ผลออกมาว่าวิลเลี่ยมส์ตัดสินถูกต้อง แต่มันส่งผลให้วิลเลี่ยมส์เสียสมาธิจนเปิดโอกาสให้เซลบี้คว้า 3 เฟรมติดๆ แซงคว้าแชมป์ไปแบบเหลือเชื่อ เป็นเพียงแชมป์ที่ 2 ของเซลบี้ ก่อนที่เขาจะเก็บได้เพิ่มอีกถึง 20 รายการหลังจากนั้น
นอกจากแชมป์เซี่ยงไฮ้ มาสเตอร์ส เซลบี้ยังได้ขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลกเป็นครั้งแรกด้วย “การขึ้นเป็นมือ 1 โลกมันยิ่งใหญ่มาก มันเป็นสิ่งที่ผมหวังเอาไว้ แต่ผมก็ต้องทำงานหนักต่อไปเพราะผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ต้องการตำแหน่งนี้เหมือนกัน”
2012 – จอห์น ฮิกกิ้นส์ ชนะ จัดด์ ทรัมป์ 10-9
เป็นอีกปีหนึ่งที่คู่ชิงชนะเลิศเป็นยอดฝีมือ และต้องสู้กันถึงฎีกา ทั้งที่ในช่วงแรกทรัมป์ออกนำห่างถึง 5-0 ฮิกกิ้นส์ได้เฟรมแรกด้วยการทำเซ็นจูรี่เบรก แต่ก็ยังตามหลังถึง 2-7 เมื่อจบเซสชั่นแรก
เกมมาพลิกแบบหน้ามือเป็นหลังมือในเซสชั่นสอง เมื่อฮิกกิ้นส์เก็บ 6 เฟรมรวดพลิกขึ้นนำ 8-7 และขึ้นแท่นก่อน ทรัมป์ไล่ตีเสมอ 9-9 จากนั้นก็ได้นำก่อนในเฟรมตัดสิน แต่ก็เบรกไปแค่ 36 แต้ม ฮิกกิ้นส์ออกมาเสี่ยงเล่นแดงลูกหลุมยาว แล้วทำสำเร็จ ก่อนจะเบรกไป 61 แต้ม คว้าแชมป์ไปครอง
“การเอาชนะจัดด์ทั้งที่ตามหลัง 2-7 เป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนั้นยังไง เพราะผมเองก็ช็อกเหมือนกัน และการชนะจัดด์ได้ทั้งที่เขาเล่นดีขนาดนั้น ทำให้นี่คือหนึ่งในชัยชนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของผม” ฮิกกิ้นส์กล่าว
(โปรดติดตามตอนต่อไป)

Comentarios